จังหวัดเพชรบูรณ์

      ระหว่างพระนางสิงขรมหาเทวี จุดไฟเผาเมืองราดนั้น ได้มีข้าราชบริวารส่วนหนึ่งอัญเชิญพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองล่องแพมาตามแม่น้ำป่าสัก เพื่อจะไปยังเมืองศรีเทพ เมื่อมาถึงบริเวณวังมะขามแฟบ กระแสน้ำเชี่ยวกราด แพไม่สามารถทรงตัวอยู่ได้ จึงพลิกคว่ำลง พระพุทธรูปจมหายลงใต้พื้นน้ำ ข้าราชบริวารเหล่านั้นไม่สามารถงมหาได้
     เรื่องราวพระคู่บ้านคู่เมืองจึงหายไปหลายร้อยปีผ่านมา ได้มีชาวประมงออกไปหาปลาในลำน้ำป่าสัก ได้มีเหตุประหลาดเกิดขึ้นคือ วันนั้นตั้งแต่เช้าจรดเย็นไม่มีผู้ใดจับปลาได้เลยสักตัวเดียว คล้ายกับว่าใต้พื้นน้ำป่าสักไม่มีสิ่งมีชีวิตอยู่เลยสร้างความงุนงงให้กับทุกคน ทันใดนั้นได้เกิดเหตุการณ์น่าพิศวงขึ้น กระแสน้ำหยุดไหล นิ่งอยู่กับที่ แล้วค่อย ๆ มีพรายน้ำผุดขึ้นทีละฟอง
และทวีมากขึ้นมองดูคล้ายน้ำกำลังเดือด แล้ว ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นน้ำวนทุกคนไม่สามารถหาคำตอบได้ว่าเกิดอะไรขึ้นมาเหนือน้ำ
      จากนั้นก็มีพระพุทธรูปองค์หนึ่งผุดขึ้นมาดำว่ายเล่นคล้ายคนเล่นน้ำ เมื่อประจักษ์ถึงความศักดิ์สิทธิ์ ชาวเมืองเพชรบูรณ์จึงได้พากันอัญเชิญพระพุทธรูป มาประดิษฐานไว้ที่วัดไตรภูมิ ซึ่งเป็นวัดเก่าอยู่กลางเมืองและใกล้กับสถานที่พบ โดยตั้งชื่อพระพุทธรูปนี้ว่า “พระพุทธมหาธรรมราชา”
เพราะสังเกตรูปร่างขององค์ท่าน ที่แต่งองค์ทรงเครื่องสวยงามเหมือนกษัตริย์โบราณ และในยุคนั้น สมเด็จพระธรรมราชาลิไทเป็นกษัตริย์ครองกรุงสุโขทัยอยู่จึงถือว่าพระพุทธรูปองค์นี้ เป็นตัวแทนขององค์พระมหากษัตริย์ปีต่อมา ตรงกับวันแรมสิบห้าค่ำ เดือนสิบ เป็นวันทำบุญสารทไทย
พระพุทธมหาธรรมราชาหายไป ราษฎรและทางวัดต่างก็เดินหากันจนอ่อนใจ แต่ไม่พบ และวันเดียวกันนั้น ชาวประมงที่หาปลาก็ไปพบพระพุทธมหาธรรมราชากำลังเล่นน้ำดำผุดดำว่ายอยู่ที่เดิม จึงได้อันเชิญกลับมาที่วัดไตรภูมิอีกครั้งหนึ่ง
เหตุการณ์ที่พระพุทธมหาธรรมราชาหายไปนั้นเกิดขึ้นถึงสามครั้ง และทุกครั้งจะไปพบที่วังมะขามแฟบสถานที่พบครั้งแรกนั่นเองชาวเพชรบูรณ์เชื่อกันว่า ความศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธมหาธรรมราชา ทำให้ชาวเพชรบูรณ์ มีความอุดมสมบูรณ์ ด้วยพืชพันธ์ธัญญาหาร และเกรงว่าท่านจะหายแอบไปดำน้ำเล่นอีก จึงได้มอบหมายให้เจ้าเมืองในขณะนั้น อุ้มท่านไปดำน้ำเสียเอง จึงได้เกิดประเพณีอุ้มพระดำน้ำขึ้น โดยทุกวันแรมสิบห้าค่ำ เดือนสิบ ตรงกับวันสารทไทย
เจ้าเมืองเพชรบูรณ์ จะต้องอัญเชิญพระพุทธมหาธรรมราชา แห่ทางเรือไปทำพิธีอุ้มพระดำน้ำ ณ บริเวณวังมะขามแฟบ สถานที่พบท่านแต่ดั้งเดิมทุกปีไป ประเพณีอุ้มพระดำน้ำของจังหวัดเพชรบูรณ์จึงเกิดขึ้น เป็นประเพณีสืบต่อเนื่องกันมา และเป็นประเพณีแห่งเดียวในโลก
ที่ไม่เหมือนใครเรื่องราวของพ่อขุนผาเมือง วีรกษัตริย์นอกประวัติศาสตร์ที่สำคัญยิ่งของชาติไทยกำลังจะจบลง พระองค์เป็นผู้เสียสละอย่างแท้จริง มีความรักชาติด้วยใจ โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน ชาวเมืองเพชรบูรณ์ไม่อยากให้ชื่อเสียงของพระองค์ท่านถูกลืม ควรเป็นตัวอย่างที่คนไทยทั้งประเทศต้องระลึกถึง และยกย่องในพระคุณของพระองค์ที่ได้สร้างชาติไทยให้เราอยู่อาศัยมาจนถึงทุกวันนี้

Advertising Zone    Close